ใช้อะไรล้างรถได้บ้าง หากน้ำยาล้างรถเกิดหมดกะทันหัน ? เรื่องนี้ต้องพิจารณาจากความสกปรกต่าง ๆ บนตัวรถว่าเป็นเพียงฝุ่นหรือคราบสกปรกที่เกิดจากการใช้งานประจำวัน หรือ คราบโคลน ขี้นก ยางไม้ หรือคราบฝังแน่นต่าง ๆ แน่นอนว่าหากเป็นคราบหนึก หรือ คราบฝังลึกต้องใช้น้ำยาล้างรถ เพราะน้ำยาล้างรถจะมีส่วนผสมของสารขจัดคราบ ทำความสะอาดบนพื้นผิวของรถยนต์ ทำให้การเช็ดคราบสกปรกทำได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะ ที่สำคัญไม่เป็นอันตรายต่อสีของรถ นอกจากนี้ น้ำยาบางสูตรจะผสมแว็กซ์มาให้ในตัวช่วยให้รถเงางามหลังจากล้างเสร็จอีกด้วย แต่ถ้าหากน้ำยาล้างรถหมดสามารถใช้อะไรแทนได้บ้าง ความเชื่อที่มีการนำ สบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน หรือ ผงซักฟอก ที่คนส่วนเลือกใช้งานแทนน้ำยาล้างรถจริง ๆ แล้วดีจริง ๆ หรือ ไม่ มีผลเสียต่อรถหรือเปล่า

ล้างรถด้วยน้ำเปล่า เพียงพอหรือไม่

ต้องพิจารณาจากความสกปรกต่าง ๆ บนตัวรถว่าเป็นเพียงฝุ่นหรือคราบที่เช็ดออกได้ง่ายหรือไม่ หากมีเพียงเท่านี้สามารถใช้น้ำเปล่าล้างได้ ร่วมกับการเช็ดถูด้วยผ้าสะอาดหรือฟองน้ำลูบตามคราบสกปรกก็จะออก ถ้าน้ำยาล้างรถหมดคุณสามารถใช้น้ำปกติแทนได้ในการล้างรถชั่วคราว น้ำปกติสามารถช่วยในการล้างคราบและทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนรถได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คุณควรจะพยายามหาน้ำที่มีคุณภาพดี และควรใช้เครื่องอัดลมหรือเครื่องพ่นน้ำอัตโนมัติเพื่อช่วยให้การล้างรถมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากมีความจำเป็นคุณสามารถไปซื้อน้ำยาล้างรถเพิ่มเติมที่ร้านอุปกรณ์รถยนต์หรือสถานีบริการน้ำมันใกล้บ้านของคุณได้ในภายหลัง

ใช้อะไรล้างรถได้บ้าง สบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก แทนได้ไหม ?

บนโลกออนไลน์มีการแนะนำหรือแชร์เคล็ดลับเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถใช้ล้างรถแทนน้ำยาล้างรถได้ นั่นก็คือ สบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน แต่บางคนก็มีความกังวลว่าจะเป็นอันตรายกับสีของรถ ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้สามารถใช้ล้างรถได้ แต่ควรใช้เป็นครั้งคราวหรือในยามจำเป็นเท่านั้น เพราะไม่ได้ถูกผลิตมาสำหรับใช้ล้างรถโดยเฉพาะเหมือนกับน้ำยาล้างรถที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์โดยตรง

  • แชมพู มักมีส่วนประกอบที่ส่งผลเสียกับผิวรถอ่อนโยนมากกว่าน้ำยาล้างรถที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการล้างรถ อาจทำให้แชมพูไม่สามารถล้างคราบสกปรกบนผิวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร แชมพูมักมีความเหนียวและเกาะติดที่ผิวรถมากกว่าน้ำยาล้างรถ นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการล้างแชมพูออกจากผิวรถ และการทำความสะอาดส่วนของแชมพูที่ตกค้างอาจลำบากได้
  • ผงซักฟอก หรือ แฟ้บ มีส่วนประกอบทางเคมีที่เข้มข้นมากเพื่อล้างคราบและสกปรกบนผ้า การใช้สารเคมีเข้มข้นอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวรถ หากไม่ใช้ให้ถูกวิธี อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสี และอาจทำลายแว็กซ์หรือแล็กเกอร์แล็กเกอที่ทำการเคลือบหรือลงไว้บนตัวรถก่อนหน้านั้นให้เสียหายหรือหลุดออกไปได้ รวมถึงทำความเสียหายต่อวัสดุอื่นๆ บนรถได้ สารเคมีที่ปรากฏในผงซักฟอกอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อน้ำที่มีสารเคมีไหลลงไปในระบบน้ำเสีย อาจส่งผลต่อส่วนกลาง ท้องถิ่น และสิ่งมีชีวิตในน้ำได้
  • น้ำยาล้างจาน มักมีสารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนกับสีและผิวรถมากกว่าน้ำยาล้างรถที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการล้างรถ การใช้น้ำยาล้างจานอาจทำให้สีรถเสียหายและเกิดความเสียหายต่อผิวรถได้ น้ำยาล้างจานมักมีการสร้างฟองเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้การล้างรถยากขึ้น ต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการล้างฟองออกจากผิวรถไม่ต่างจากการใช้แชมพูล้างรถ
  • สบู่ ไม่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับการล้างรถ ดังนั้น อาจไม่สามารถล้างคราบและสกปรกบนผิวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร สร้างฟองเยอะ มีความเหนียวและเกาะติดที่ผิวรถพอ ๆ กับ แชมพูและน้ำยาล้างจาน ซึ่งมากกว่าน้ำยาล้างรถ ต้องใช้แรงในการขัด ถู เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดรอยขีดข่วนกับผิวรถได้ บางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ส่งผลต่อสีรถและมีการทิ้งสารตกค้างเกาะติดอยู่หลังล้างเสร็จ

แต่หากหาน้ำยาล้างรถไม่ได้จริง ๆ มีหลายทางเลือกสำหรับล้างรถที่คุณสามารถใช้ล้างรถได้ เช่น น้ำยาซักผ้าอ่อนๆ  แชมพูอ่อนๆ และเบกกิ้งโซดา อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำยาล้างรถโดยเฉพาะหรือทางเลือกอื่นที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการล้างรถของคุณ

อย่างไรก็ตาม สรุปได้ว่าการล้างรถด้วยน้ำเปล่า หากเป็นคราบเล็กน้อยก็สามารถล้างได้ และหากไม่มีน้ำล้างรถจริง ๆ ก็สามารถใช้ สบู่ แชมพู หรือ น้ำยาล้างจาน แทนได้ แต่แนะนำให้ใช้เป็นครั้งคราวไม่ควรใช้ล้างเป็นประจำ หากเลือกได้แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างรถโดยเฉพาะเพราะจะไม่สร้างความเสียหายให้กับสีของรถ แถมยังเป็นการช่วยถนอมสีรถให้ดูเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ และนี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับการล้างรถ