ล้างรถตอนฝนตก ควรล้างดีไหม? คำถามนี้อาจจะทำให้หลายคนคงคิดว่า “ฝนก็ตก รถก็เปียก จะล้างทำไมให้เสียเวลา?” แต่รู้หรือไม่ว่า ความจริงแล้วหน้าฝนนี่แหละ เป็นช่วงที่รถของคุณต้องการการดูแลเป็นพิเศษเลย! วันนี้ทางน้อง catcarwash จะมาไขข้อข้องใจทุกเรื่องเกี่ยวกับการล้างรถหน้าฝน พร้อมเคล็ดลับการดูแลรถคู่ใจให้สวยปิ๊งตลอดฤดูกันครับ

ล้างรถตอนฝนตก ยิ่งเลอะ ยิ่งต้องล้าง จริงหรือ

ยิ่งรถเลอะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องรีบล้างทำความสะอาดให้เร็วเท่านั้น เพราะมีเหตุผลสำคัญหลายข้อดังนี้

  1. คราบสกปรกฝังแน่น: ถ้าปล่อยคราบสกปรกจากน้ำฝน โคลน หรือสิ่งอื่นๆ ทิ้งไว้นาน จะยิ่งทำให้คราบฝังแน่น ทำความสะอาดยากขึ้น ต้องออกแรงขัดถูมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดรอยขนแมวบนสีรถได้
  2. ทำลายสีรถ: ในคราบสกปรกต่างๆ อาจมีสารเคมีที่เป็นกรด ซึ่งสามารถกัดกร่อนสีรถ ทำให้สีรถหมองคล้ำ ซีดจาง และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
  3. เกิดสนิม: ความชื้นและคราบสกปรกที่สะสมเป็นเวลานาน จะทำให้รถเป็นสนิมได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นโลหะและซอกต่างๆ ที่ทำความสะอาดยาก
  4. บดบังทัศนวิสัย: คราบสกปรกที่เกาะบนกระจก ไฟหน้า และกระจกมองข้าง จะบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้น ควรรีบล้างรถทันทีหลังจากที่รถเลอะ หรืออย่างน้อยควรล้างรถสัปดาห์ละครั้งในช่วงหน้าฝน เพื่อรักษาสภาพรถให้อยู่ในสภาพดี สวยงาม และปลอดภัยครับ

ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน?

  • คราบสกปรกฝังแน่น: น้ำฝนที่ดูใส ๆ อาจมีฝุ่นละออง สารเคมี และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ปะปนอยู่ เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นคราบฝังแน่น ทำความสะอาดยาก
  • ป้องกันสนิม: ความชื้นจากน้ำฝนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้รถเป็นสนิม โดยเฉพาะบริเวณใต้ท้องรถและซอกต่าง ๆ ที่เข้าถึงยาก
  • รักษาสภาพสีรถ: คราบสกปรกและความเป็นกรดในน้ำฝนอาจทำให้สีรถหมองคล้ำและซีดจางได้
  • มองเห็นชัดเจน: หน้าฝนทัศนวิสัยในการขับขี่มักจะแย่ลง การล้างรถให้สะอาดจะช่วยให้กระจกและไฟหน้าใสปิ๊ง มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

ล้างรถหน้าฝนอย่างไรให้ถูกวิธี?

  • ล้างทันทีหลังฝนหยุด: ควรรีบล้างรถทันทีหลังฝนหยุดตก เพื่อป้องกันไม่ให้คราบสกปรกฝังแน่น
  • ใช้น้ำสะอาดฉีดทั่วคัน: เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำสะอาดทั่วทั้งคัน เพื่อชะล้างฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกออกไป
  • ใช้น้ำยาล้างรถสูตรอ่อนโยน: เลือกใช้แชมพูล้างรถสูตรอ่อนโยน ที่มีค่า pH เป็นกลาง เพื่อไม่ให้ทำลายชั้นเคลือบสีรถ
  • ล้างจากบนลงล่าง: เริ่มล้างจากหลังคารถลงมา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำสกปรกไหลกลับไปโดนส่วนที่ล้างแล้ว
  • เช็ดให้แห้งสนิท: หลังล้างเสร็จ ควรเช็ดรถให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำ

ดูแลรถอย่างไรให้พร้อมรับมือหน้าฝน?

  • เคลือบสีรถ: การเคลือบสีรถจะช่วยปกป้องสีรถจากกรดในน้ำฝนและป้องกันการเกิดคราบน้ำ
  • ตรวจสอบสภาพยาง: ตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ให้มีดอกยางเพียงพอ และเติมลมยางให้ได้ระดับที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน
  • ตรวจสอบระบบเบรก: ตรวจสอบระบบเบรกให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
  • ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง: ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่างต่างๆ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ให้ทำงานได้อย่างปกติ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่

ข้อควรระวังในการล้างรถหน้าฝน

  • หลีกเลี่ยงการล้างรถกลางแจ้งขณะฝนตก: ควรล้างรถในร่มหรือในที่กำบัง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนตกลงมาโดนรถขณะล้าง
  • ไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน: สารเคมีในผงซักฟอกและน้ำยาล้างจานอาจทำลายชั้นเคลือบสีรถได้

สรุป

การล้างรถในช่วงฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยรักษาความสวยงามของรถแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำฝนอีกด้วย หากเราใส่ใจดูแลรถยนต์คู่ใจอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้รถยนต์ของเราดูใหม่อยู่เสมอ คุณสามารถไปล้างรถได้ที่คาร์แคร์หรือแม้กระทั่งล้างหยอดเหรียญ ที่อยู่ใกล้บ้านของคุณครับ