ข้อควรระวังในการล้างรถ มีอะไรบ้าง ? สำหรับคนมีรถ สิ่งที่ต้องทำประจำคือการถนอมรถของคุณให้ใช้ได้นานๆ ด้วยการทำความสะอาดรถ หรือ การล้างรถ นั่นเอง แต่มือใหม่อาจนึกไม่ถึงว่า การล้างรถที่ถูกต้องนั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์แค่ทำความสะอาดแต่มันยังสามารถช่วยในการเพิ่มสมรรถนะให้รถอารมณ์เดียวกับการเสริมความหล่อเหลาให้กับยานพาหนะตัวเอง การล้างรถได้ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการซ่อมและการใช้งาน และมีส่วนในการทำให้รถคงสภาพได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อล้างรถ มีข้อควรระวังบางประการที่คุณควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้สีรถหรือส่วนอื่นๆ ของรถเสียหาย คำแนะนำบางส่วนมีดังนี้

วิธีล้างรถ ที่ถูกต้อง

ก่อนจะระวังมาดูกันก่อนว่าวิธีล้างรถที่ถูกหลัก ถูกต้องนั้นทำอย่างไร เรื่องที่ดูเหมือนง่าย แต่ต้องสอนกันเพราะรถยนต์เป็นของที่ใช้ทุกวัน และมีราคาสูงจึงต้องมีการดูแลอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่การล้าง มาดูวิธีและขั้นตอนกัน

  1. ฉีดน้ำแรงๆ โดยต้องเป็นน้ำเย็น เพื่อกำจัดพวกฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถออกเสียก่อน การฉีดนั้น ต้องไล่จากบนลงมาล่าง
  2. ตัวน้ำยาต้องผสมกับน้ำอุ่น อัตราส่วนผสมนั้นให้ดูที่ฉลากที่แนะนำไว้เป็นหลัก ควรผสมตามอัตราส่วนที่ให้อย่างเคร่งครัด อย่าคิดว่าน้ำยาเข้มข้นแล้วจะดี เพราะบางทีส่วนผสมในน้ำยาจำเป็นต้องเจือจางเพื่อไม่ให้มีส่วนทำลายสีรถเสียเอง
  3. เริ่มต้นล้างรถ จากบนลงล่าง คือเริ่มจากหลังคารถ ค่อยๆ ไล่ลงมาทางด้านข้าง ในส่วนของกระจกรถและตามขอบต่างๆ นั้น ไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำล้างรถล้าง เพราะอาจมีพวกเศษหินหรือวัสดุแข็งที่ทำลายกระจายให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ควรเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าสำลีหรืออุปกรณ์ในการล้างโดยเฉพาะ และก่อนใช้ควรสำรวจด้วยว่า ผ้านั้นสะอาดปราศจากสิ่งที่จะทำลายกระจกหรือเปล่า
  4. ขณะล้างรถนั้น ควรซักผ้าบ่อยๆ และแบ่งการใช้ผ้าในการล้างแต่ละส่วนของรถเป็นคนละผืนอย่างเหมาะสม เช่น ผืนหนึ่งใช้ล้างหลังคารถ ฝากระโปรงรถหน้า-หลัง อีกผืนหนึ่งใช้ล้าง เริ่มตั้งแต่ขอบกระจกลงมาด้านล่าง ส่วนอีกผืนใช้สำหรับล้างล้อรถและส่วนที่มีความสกปรกมากๆ ไม่ควรใช้ผืนเดียวล้างทั้งคันรถ เนื่องจากรถแต่ละส่วนสกปรกไม่เท่ากัน การดูแลและถนอมก็ต่างกัน ไม่ต่างจากคนเราที่มีการแยกผ้าสำหรับใช้กับอวัยวะที่ต่างกันคนละผืนนั่นเอง
  5. ขณะที่ล้างด้วยน้ำยา อย่าปล่อยให้น้ำยาแห้งต้องล้างด้วยน้ำสะอาดให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะไปล้างในส่วนอื่นๆ สุดท้าย เมื่อล้างหมดทั้งคันแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาดทั้งคันอีกเป็นรอบสุดท้าย
  6. หลังจากนั้น ให้เช็ดรถให้แห้งในทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจเกิดคราบน้ำ และทำให้ฝุ่นมาเกาะรถที่ยังเปียกหรือหมาดทำให้รถสกปรกอีก

ကားဆေးတဲ့အခါ ဘယ်လိုသတိထားရမလဲ။

  1. อย่าล้างบ่อยเกินไป และเลือกน้ำยาล้างรถที่ดีมีคุณภาพไม่ทำลายสีรถ
  2. ให้ล้างรถในที่ร่ม เพื่อควบคุมเวลาในการล้างและเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง หากล้างกลางแดด แสงแดดทำให้รถแห้งเร็วจนบางทีเกิดเป็นคราบ จุดน้ำที่เกิดจากแสงแดด เช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือผ้าชามัวร์เพื่อหลีกเลี่ยงจุดน้ำ
  3. ควรล้างรถในตอนเช้า เพราะหลังจากนั้นยังมีเวลาทำให้รถแห้ง ซึ่งถ้าล้างตอนเย็นหรือค่ำ หากมีบางจุดที่เช็ดไม่แห้ง อาจทำให้รถเป็นสนิมในจุดนั้นได้
  4. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือฟองน้ำค่อยๆ ล้างรถด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ
  5. ใช้ถังแยกต่างหากสำหรับล้างโฟมหรือฟองน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งสกปรกไหลกลับเข้าไปในรถ
  6. ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถ เพราะอาจมีเหตุให้รถเป็นรอยได้ เนื่องจากไม่ได้กำจัดฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกที่ติดตัวรถออกก่อน เมื่อนำมาไปแนบและเช็ดก็อาจครูดรถได้
  7. ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำยาที่ผลิตมาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เนื่องจากความแรงของน้ำยาอาจทำลายสีรถได้
  8. อีกข้อหนึ่งซึ่งมักเกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็คือ การใช้แปรงหรือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นรถ ในเวลาที่ไม่มีเวลาว่างล้างแบบเต็มรูปแบบ ข้อนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวอาจลากฝุ่นหรือเม็ดทรายที่เกาะอยู่กับรถครูดจนรถเป็นรอยได้
  9. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรงหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่สามารถทำลายสี คิ้ว หรือยางได้

โปรดจำไว้ว่าต้องอ่อนโยนและใช้เวลาสักนิด แล้วรถของคุณจะดูสะอาดและเงางาม และนี่ก็เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการล้างรถ ที่ช่วยเรื่องของการถนอมสีรถ ในการล้างรถสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ขัดเช็ดแห้ง การล้างน้ำเปล่า ไปจนถึงการอัดฉีด แล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งาน สำหรับความรู้หน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร รอติดตามรับชมกันต่อไป